แนะนำการใช้งาน Application
ควบคุมธรรมชาติเพียงแค่ปลายนิ้ว
การดาวน์โหลด App
SmartTerra Application มีให้ดาวน์โหลดฟรีใน Google Play Store และ Apple App Store
เพียงค้นหา "SmartTerra" หรือคลิ๊กที่ปุ่มด้านล่าง
การเชื่อมต่อ
ก่อนอื่นคุณจะต้องเชื่อมต่อมือถือของคุณกับตู้ SmartTerra กระบวนการการเชื่อมต่อจะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างอุปกรณ์มือถือ Android และ iOS หลังจากที่มือถือของคุณจับคู่กับตู้เรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถมองเห็นตู้เมื่อคุณคลิ๊กที่ไอคอนตรงมุมขวาบนของแอป การคลิกที่ชื่อของตู้จะเป็นการ Refresh การเชื่อมต่อ
การ Refresh การเชื่อมต่อ
Android
ทำการเชื่อมต่อผ่านหน้าจอการตั้งค่า Bluetooth ในมือถือของคุณ (ไม่ใช่ในแอป) ในหน้าจอการตั้งค่า Bluetooth ให้มองหา SMT-xxxxxx หรือ SMT-xxxxxx-ble หลังจากที่คุณเชื่อมต่อตู้เรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถมองเห็นชื่อของตู้จากภายในแอป
iOS
ทำการเชื่อมต่อผ่านแอปโดยตรง ภายใต้ Settings > Devices ค้นหา SMT-xxxxxx หรือ SMT-xxxxxx-ble หลังจากที่คุณเชื่อมต่อตู้เรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถมองเห็นชื่อของตู้เมื่อกดที่ไอคอนขวาบน
หลังจากเชื่อมต่อแอปกับ SmartTerra หน่วย
ตั้งค่าวันที่/เวลา
ก่อนอื่นคุณต้องตั้งค่าวันที่/เวลาของตู้ ไปที่ Settings > Advanced Settings > SYNC DATE AND TIME
Calibration (ปรับเทียบค่า)
เมื่อคุณใช้งานตู้เป็นครั้งแรก คุณจะต้องปรับเทียบค่าของเซนเซอร์ความชื้นในดิน ในอนาคตหากคุณพบว่าการอ่านความชื้นในดินไม่ถูกต้องคุณอาจต้องเทียบค่าอีกรอบได้
หากคุณพบว่าฝนตกไม่ปกติ คุณสามารถปรับเทียบค่าปั๊มฝนได้ตามที่คุณต้องการในหน้าจอปรับเทียบค่าปั๊ม
Soil Probe Calibration (ปรับเทียบค่าเซ็นเซอร์ความชื้นในดิน)
เราจำเป็นต้องปรับเทียบค่าของเซนเซอร์ความชื้นในดินเนื่องจากการวัดค่าจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทดินที่คุณใช้ วิธีการปรับเทียบค่า >>
Rain Pump Calibration (ปรับเทียบค่าปั๊ม)
ทุกครั้งที่ฝนตกปั๊มจะต้องดันอากาศออกจากท่อก่อน (Priming) ในขณะที่คุณปรับค่าต่างๆ ให้สังเกตรางฝนว่าน้ำตกลงมายังไง
การตั้งค่าเบื่องต้น
เราจะพาคุณไปรู้จักกับ SmartTerra App
Home Page (หน้าหลัก)
ที่นี่คุณจะสามารถ:
ดูสถานะการเชื่อมต่อของตู้
ดูการแจ้งเตือน (หากมี)
ดูสภาพอากาศ: อุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ และความชื้นในดิน
ควบคุมระดับเสียง
เปิด / ปิดไฟ
ถ้าข้อมูลบนจอไม่มีการ Update โปรดตรวจสอบว่าสถานะระบุว่า Connected หรือไม่ คุณสามารถ Refresh การเชื่อมต่อโดยการคลิ๊กที่ไอคอนที่มุมขวาบน ตามด้วยชื่อตู้
Unit Settings (ตั้งค่าตู้)
การคลิกที่รูปถ่ายของตู้บนหน้าหลักจะนําคุณไปยังหน้าจอการตั้งค่าตู้ ที่นี่คุณจะสามารถ:
แก้ไขชื่อตู้
ถ่ายภาพ/อัพโหลดภาพถ่ายตู้
เลือก Theme
เปลี่ยนหน่วยวัด
เปิด/ปิดการแจ้งเตือน
Commands (คำสั่ง)
ที่นี่คุณจะสามารถส่งคําสั่งไปที่ตู้จากมือถือของคุณ อาจใช้เวลาสักครู่ในการส่งคําสั่ง และคุณสามารถส่งคำสั่งได้ครั้งละ 1 คำสั่งเท่านั้น
Themes (ธีม)
Theme (ธีม) ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่ง SmartTerra และสลับไปมาระหว่างสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นเรามี Preset Theme (สภาพแวดล้อมต้นแบบ) ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าสองแบบได้แก่:
Tropical Forest - ป่าฝนเขตร้อน (อุณหภูมิปานกลาง ความชื้นสูง)
Desert - ทะเลทราย (อุณหภูมิสูง ความชื้นต่ํา)
คุณสามารถปรับเปลี่ยนค่าจากสภาพแวดล้อมต้นแบบโดยการกด Duplicate (คัดลอก) และหากคุณต้องการสร้างธีมใหม่ ให้กดปุ่ม + ที่ด้านล่างของหน้าจอ
Add Theme (เพิ่มธีม)
Setpoints (จุดตั้งค่า)
คุณสามารถตั้งค่าอุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ และความชื้นในดิน ที่เหมาะสําหรับสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการ อุณหภูมิและความชื้นจะถูกวัดที่ฝาด้านบนของตู้ ในขณะที่ความชื้นวัดโดยเซนเซอร์ความชื้นที่ปักอยู่ในดิน
Lighting (ไฟ)
คุณสามารถตั้งเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกของคุณเองได้ เราแนะนําให้มีแสงสว่างอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้แน่ใจว่าต้นไม้ของคุณได้รับแสงแดดเพียงพอ นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกสีท้องฟ้า สําหรับเวลากลางคืนเมื่อเลือกโหมด Static (คงที่) คุณจะสามารถเลือกสีได้
Soundscape (เสียงธรรมชาติ)
เลือกเสียงธรรมชาติเพื่อเล่นระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืน ตัวอย่างเสียง >>
การคัดลอก/ลบธีม
คุณสามารถคัดลอกธีมเพื่อปรับแต่ง หรือลบธีมที่คุณไม่ต้องการอีกต่อไป
การสตรีมเพลง
SmartTerra มีระบบสตรีมเพลง Bluetooth อยู่ในตัว ซึ่งทํางานอย่างอิสระจาก SmartTerra แอป คุณสามารถที่จะเชื่อมต่อ เล่นเพลง และควบคุมระดับเสียงโดยตรงจากมือถือของคุณ เช่นเดียวกับลำโพงบลูทูธทั่วไป เพื่อจับคู่ ไปที่หน้าจอการตั้งค่า Bluetooth และเชื่อมต่อกับ SMT-SND หรือ F-3188
ช่วยเหลือ
มีแหล่งข้อมูลมากมายภายในแอปในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถไปที่ Getting Started Guide (คู่มือเริ่มต้นใช้งาน) และ SmartTerra User Forum (ฟอรั่ม) ได้โดยตรงจากหน้าจอ Help หากคุณมีคําถามใดๆ ก่อนอื่นให้ดูที่หน้า Troubleshooting (การแก้ไขปัญหา) หลังจากนั้นหากคุณต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อเรา
